Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1 - Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1 นิยาย Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1 : Dek-D.com - Writer

    Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1

    ในชีวิตของคุณจะเชื่อหรือไม่ครับว่าจะสามารถใช้เงินไปแลกกับการไม่ต้องเจอกับเรื่องซวยๆได้...............

    ผู้เข้าชมรวม

    266

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    266

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 มี.ค. 54 / 08:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    แนะนำตัวละคร
    คุณวินัย พัฒนพงศ์พันธ์  เจ้าของธุรกิจไส้ดินสอ  อายุ 45 ปี (ในตอนนี้ชายผู้นี้จะเป็นตัวเดินเรื่องครับ)
    มีลูกสาวชื่อเอม ชื่อจริงยังไม่เปิดเผย
    Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1
    Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้1
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Unlucky bank

      ตอน ความซวยเลี่ยงได้

      “สวัสดีครับ” เสียงเด็กต้อนรับประจำสำนักดูดวงที่ผมกำลังขับรถเข้าไปกล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล ยกมือไหว้ผมอย่างอ่อนน้อม แต่เค้าไม่รู้หรือไงว่าผมเป็น.......

      “สวัสดีคร้าบ”

      บรึนนนนนนน.........โคร้มมมมมมมซ์(มี ซ ด้วยเว้ยเห้ย)

      รถยนต์ Toyota vios  สีขาวของลูกสาวผมโอ้...ไม่นะ

      .........โรคประจำตัวของผมก็คือเวลาใครมาทักผมผมต้องยกมือไหว้เค้าทุกครั้งไปแล้วนี้ผมก็ลืมตัวไปยกมือรับไหว้ ตกใจเหยียบคันเร่งพุ่งไปชนรูปปั้นน้ำพุโบราณแล้วก็รังน้ำแดงเฮลบลูบอยที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใกล้ๆกันพังเสียหายยับเเต่รถบุบแค่เล็กน้อย มีรอยยุบที่ไฟหน้าด้านขวากับมีน้ำแดงที่กระจายเปรอะรถเท่านั้นเอง

      “ยังโชคดีนะที่ไม่มีใครเป็นอะไร”

      “อ่ออาจารย์เหม่ง  ครับๆๆ” ผมเสียวสันหลังวาบเมื่อเห็นหมอเหม่งชะโงกหัวออกจากหน้าต่างมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในอาณาบริเวณสำนักดูดวงของท่าน  แล้วเค้าจะยอมดูดวงให้ผมมั้ยเนี่ย

      “แล้วคุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”

      “อ่อไม่เป็นอะไรเลยครับ ไม่เลย สบายมากๆครับ” โหคนไรวะ ไม่โกรธแถมยังเป็นห่วงเราอีก คนดีเป็นบ้าเลย

      “ถ้าเช่นนั้นก็เชิญขึ้นไปข้างบนก่อน รอคิวหน่อยละกันนะ”

      แล้วผมก็เดินขึ้นไปบนบ้านไม้ทรงเรือนไทยที่ยกสูงเด่นเป็นสง่า ส่วนรถนะเหรอครับก็ปล่อยเอาไว้ตรงนั้นนั่นแหละคิดเสียว่าเป็นฉากทักทายที่ประทับใจของคนพบกันครั้งแรกก็แล้วกัน

      บรรยากาศภายในอาคารไม้ดูโล่งโปร่งสบายลมพัดมาเอื่อยๆสร้างได้สมบูรณ์แบบจริงๆบวกกับกลิ่นไม้ที่หอมหวนที่ลอยเข้ามาปะทะจมูกบ่งบอกถึงความเก่าของเรือนไม้นี้ได้เป็นอย่างดี    3  คนตรงนั้นคงจะเป็นคนที่รอคิวหม่อเหม่งซินะ ผมนั่งรอคิวไปสักพักหนึ่งก็ถึงคิวของผม

      “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้หมอเหม่งอย่างอ่อนน้อม

      “อืม....ตามสบายเถอะ” หมอเหม่งยกมือมาประนมระดับอกรับไหว้

      ก่อนที่จะได้สนทนากันอย่างจริงจังความคิดชั่ววูบของผมก็แวบขึ้นมา ผมรู้ได้ทันที่วาทำไมท่านถึงชื่อว่าหมอเหม่ง ก็ที่เห็นอยู่ตอนนี้หัวแกเถิกลึกดีจังจะเลยกลางหัวไปแล้วมั้งนั่น ฮาๆๆๆๆๆ

      “มีอะไรติดหัวข้าเรอะ”เสียงทุ้มๆเอ่ยขึ้นมา

      “ครับ ไม่มีครับ” และนี่ก็เป็นข้อเสียของผมอีกอย่างหนึ่ง ดวงตาของผมมักจะเปิดเผยความคิดของผมเสมอ

      “มาทำไมละ”

      เอ้า เอ้า เอ้า เอ้า (เสียงเหมือนที่ตลกเค้าเล่นกัน) ผมมาสั่งผัดไทยกินมั้งคร้าบ ฮาๆๆๆ แต่ด้วยความเกรงใจจึงตอบไปว่า

      “มาดูดวงครับ”

      “อืม...งั้นส่งมือมาหน่อยซิ” ผมยื่นมือซ้ายข้างถนัดไปให้หมอเหม่งพินิจพิจารณา

      “อายุเท่าไหร่”

      “45 ครับ”

      “อืม....ตั้งใจฟังนะ ตามตำราท่านว่าไว้ว่า วันนี้มาทีหลังเมื่อวานแต่มาก่อนวันพรุ่งนี้ สำหรับดวงเจ้าในช่วงนี้ที่ผ่านมาค่อนข้างมืดครึ้ม  ปัจจุบันมืดครึม อนาคตมืดครึม” ใช่ซิ ไม่ให้มืดได้ไงก็หลับตาทำนายนี่ท่าน เหมือนได้ยินหมอเหม่งเหลือบตาขวามามองเล็กน้อย “ไปทำบุญบ้างเผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้เบาลง”

      “ครับแล้วท่านไม่มีอะไรแก้บ้างเลยหรอครับ”

      “ไม่มีหรอก ข้าแค่ดูอนาคตได้เท่านั้น เพื่อจะได้มีความพร้อมในสิ่งที่ต้องเผชิญในวันข้างหน้า”

      “ครับ ขอบคุณมากครับลาละครับ” ผมตีหน้าเศร้ายกมือไหว้ท่านเผื่อจะได้ของดีอะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง

      “เดี๋ยวก่อน”

      นั่นไงว่าแล้ว แผนเรานี่มันสุดยอดจริงๆ

      “ถ้าช่วยซื้อน้ำพุให้ใหม่จะเป็นการดีมากเลย”

      “ครับ”  ป่อย!!! เซงเลยครับสรุปว่ามาที่นี่ไม่ได้ช่วยอะไรมาเพื่อเสียงตังแท้ๆ

                          รถยนต์สีขาวคันงาม(แต่ตอนนี้คงไม่งามเท่าไหร่)ที่ข้างหน้ามีรอยบุบเล็กน้อยถูกถอยอย่างช้าๆออกจากสำนักดูดวงอย่างระมัดระวัง ขณะนี้ท้องฟ้ามืดสลัวๆ วินัยเจ้าของธุรกิจไส้ดินสอกดกำลังขับรถอย่างช้าๆเปิดเพลงสบายๆฟังไปด้วยแต่ทว่าจิตใจเค้านี้ไม่ค่อยสบายเลย เขาครุ่นคิดถึงในสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา  มีแต่เรื่องซวยๆทั้งนั้น  อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาเพิ่งจะลื่นลมในห้องน้ำที่บริษัทหัวทิ่มลงไปในชักโครก โชคยังดีที่ตอนนั้นเป็นช่วงเช้า คิดเสียว่าอย่างน้อยวันนั้นพนักงานก็ยังไม่ได้ใช้นี่ (แต่เมื่อวานหรือวันที่ผ่านมาไม่รู้.....) ในขณะที่กำลังคิดไปเรื่อยๆนั่นเองก็มีควายโผล่ออกมาจากข้างทางวิ่งตัดหน้ารถข้ามถนนไปหาแฟนมันที่รออยู่อีกฝั่ง

      “เห้ย.......ไอ้ควาย”

      เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด..โคร้มมมมมม  รถหมุนขว้าง 180 องศา เหมือนพายุไซโคลน ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า  เสียงชนรุนแรงมาก ถ้าได้ยินแต่เสียคงนึกว่าตายไปแล้ว

      รถ  vios คันงามไปหยุดอยู่บนริมฟุตบาท ถังขยะสีน้ำเงินเข้มของเทศบาล 3 ถังที่เคยวางอยู่ตรงที่ที่รถจอดอยู่ตอนนี้ รถกระจายระเนระนาด ถ้าเป็นคนคงตายคาที่กระมัง เศษขยะปลิวว่อนไปทั่วท้องถนนในเวลานี้ วินัยหันไปหาเจ้าของควายต้นเหตุปรากฏว่าหายไปแล้วคงเหลือเพียงแต่ไทยมุงที่มาเยี่ยมชมเหตุการณ์

      “เห้ย ตายป่าววะ”

      “ซี๊แหง่มๆ ชนขนาดนี้ อั๊วว่าคอหักตายแน่ๆ”

      “รถเละเทะไปหมดเลย เลือดเลอะกระโปรงรถด้วย รอดก็เวอร์แล้ว”

      “นี่ๆๆๆๆ ตัวเองถ่ายรูปให้เค้าหน่อยเค้าจะเอาลงเฟสบุ๊ก”

      == * ถามนิดนึง มีใครคิดจะช่วยกรูม้ายยยยยยยยยยยยยยยย  อารมณ์โมโหระคนอายผมเหยียบคันเร่งออกจากตรงนั้นทันที ก่อนจาก ผมยื่นมือขวาออกไปนอกรถชูนิ้วกลางงามๆให้กับไทยมุงที่แตกหืออยู่ข้างหลัง

      “ไอ้พวกบ้าแทนที่จะมาช่วยสักนิดก็ไม่ได้ เจริญเหอะชีวิต”

      เห้อ.....แล้วจะบอกลูกว่ายังไงละเนี่ย  ผมคิดในใจ แล้วตาก็ไปเห็นอะไรบางอย่างที่ติดหน้ากระโปรงรถ เป็นกระดาษใบปลิวสมัครงานละมั้ง คงจะติดเพราะน้ำหวานนั่นแหละ เดี๋ยวก็คงหลุดไปเอง ผมขับรถจนถึงบ้านแต่กระดาษแผ่นนั้นยังไม่หลุดออกไปผมจึงหยิบมันขึ้นมาอ่านดู ด้วยความที่มันเลอะน้ำหวานไปบ้างทำให้ข้อความบางส่วนดูหายไป แต่แค่เพียงหัวเรื่องของกระดาษก็เริ่มทำให้ผมสนใจมันแล้วละ

       

       

       

       

       

      ความซวยเลี่ยงได้

      ถ้าหากคุณคิดว่าความซวยเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต

      ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด หนทางไม่ราบรื่นเสียที

      เราพร้อมอาสามาช่วยคุณ  เพียงคุณฝากความซวยไว้กับเรา

      แล้วคุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณง่ายขึ้น

      ***คำเตือน***

      คนเราสามารถตายได้เพียงแค่ครั้งเดียว หากไม่อยากตายก่อนเวลาอันควร 

      ให้เราได้ดูแลชีวิตคุณ  Unlucky Bank

      สถานที่ทำการ

      ชั้น 29 ตึกเคิร์พ สแตนดิง  13/13 ศรีราชา ชลบุรี

      เหอะมันจะเป็นไปได้ไง ผมขยำกระดาษเป็นก้อนกลมๆ เอาเท้าเหยียบที่เปิดถังขยะแล้วโยนมันลงไปอย่างไม่ใยดี(เวอร์ไป)

      เช้าวันต่อมา

      “ไปมหาลัยแล้วหรอลูก”

      “คะพ่อ”

      “ไปยังไงละ”

      “ยังจะมาถามอีกนั่งรถเมล์ซิคะ”หญิงสาวหน้าตาหวาน ดวงตาตี่เรียวๆ ผมดำขลับเงางาม ผิวพรรณของเธอบ่งบอกถึงความร่ำรวยของครอบครัวได้เลยทีเดียว “พ่อคะรถคันใหม่หนูอยากได้ Bugatti Veyron Grand Sport คะ” เธอยิ้มอย่างน่ารักส่งไปยังชายผู้เป็นพ่อ แล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป

      “เอม”วินัยผู้เป็นพ่อเรียกลูกสาว

      “ขาพ่อ”เอมยื่นหัวเข้ามาจากข้างนอก(ยื่นมาแต่หัว)

      “เอารถพ่อไปใช้ก่อนก็ได้ลูก วันนี้พ่อว่าจะหยุดพักดีกว่า” ชายวัยกลางคนหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีขณะพูดกับลูกสาว

      “ขอบคุณคะพ่อ  พ่อคะนั่นมันรีโมทเครื่องซีดีคะพ่อ บ้ายบายคะ” แล้วเธอก็ดึงหัวของเธอพ้นจากประตูไป           

             อันที่จริงเมื่อคืนนี้ผมก็นอนคิดอยู่หลายตลบว่าใบปลิวที่ว่ามันจริงหรือไม่  ถ้ามันช่วยผมได้จริงๆชีวิตของผมก็จะดีขึ้น ถ้าหากว่ามันหลอกลวงผมก็แค่เสียเงินไป วันนี้ผมว่าจะลองดูสักครั้ง

      ปึก  ปึก  ปึก ปึก   ปึก ปึก แอ๊นนนนน แต๊ก แต๊ก แต๊ก แต๊ก แต๊ก

      รถมอเตอร์ไซด์ Honda R สีดำของผมถูกปลุกให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นรถคันแรกของผมเลยทีเดียว 20 ปีมาแล้วที่มันอยู่กับผมมา

      แต๊ก แต๊ก แต๊ก แต๊ก

      ผมประคองรถคู่ใจของผมที่จะดับแหล่ไม่ดับแหล่มาจนถึงหน้าตึก curve standing  จนได้ เหนื่อยใช่เล่นลุ้นสุดก็ตอนข้ามแยกไฟแดงนี่แหละเครื่องมันดันไปวอดกลางสี่แยกเดชะบุญรถคันหลังมันหลบทันไม่งั้นก็ได้เป็นคนอ่านหนังสือพิมพ์กลางถนนแล้วละ แต่ทว่าเมื่อผมมาถึงตึก curve standing  ผมก็รู้สึกไม่อยากเข้าไปย่างไรไม่รู้ มันจะมีจริงได้ไงเอาเงินแลกกับความซวยออกไปจากชีวิตนี่นะบ้าไปแล้วแต่ทันใดนั้นที่ผมจะหันรถกลับหางตาก็บังเอินเห็นคุณวีรยุทธเจ้าของธุรกิจสเต็มเซลล์หางจิ้งจกเดินออกมาจากตึก  ในมือถืออะไรบางอย่างคล้ายกับสมุดธนาคาร

      Unlucky Bank “ผมตกใจเล็กน้อย อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด คุณวีรยุทธนักธุรกิจที่รวยเป็นอันดับที่ 5 ของโลกเนี่ยนะหรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้ารวยขึ้น เอาวะลองดูสักครั้งจะเป็นไร ความหึกเหิมเกิดขึ้นมาทันใดเมื่อได้เห็นไอดอลตัวเป็นๆ

      “อย่างน้อยถ้ากูถูกหลอก ก็ไม่ใช่แค่กูคนเดียวเว้ยเฮ้ย”


      ยังไม่จบนะครับ ต่อ Unlucky bank ความซวยเลี่ยงได้ 2

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×